วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อันดับ หายาก จำนวนผลิต เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ชนิด 5 บาท


10 อันดับ หายาก จำนวนผลิต เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ชนิด 5 บาท



วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แผงเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน 2534

ช่วงนี้เห็นแผงเหรียญหมุนเวียน 34 ขายกันหลายแผง ลองมาเทียบสถิติต่างๆกับตารางกันดูมีอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับตัดสินใจในการซื้ิอ
  1. แผงนี้มีไม่เกิน 25,000 แผง เนื่องจาก 1,5,10 สตางค์ผลิตอย่างละ 25,000 
  2. เหรียญ 50 สตางค์ ผลิตน้อยติดอันดับ 2 ผลิต 4,660,380 เหรียญ ( ปี 30 อันดับ 1 ผลิต 1,000 เหรียญ )
  3. เหรียญ 1,5,10 สตางค์ผลิตน้อยติดอันดับ 4 25,000 เหรียญ
  4. เหรียญ 10 บาท ผลิตน้อยติดอันดับ 5 จำนวน 1,380,650 เหรียญ




วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐ บาท ๑๐๐ ปี ศิริราชแพทยากร

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐ บาท 
๑๐๐ ปี ศิริราชแพทยากร 
๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๓๓-๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๓ 
จำนวนผลิค 300,000 เหรียญ 
ถือเป็นเหรียญนิยม



เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐ บาท เฉลิมพระเกียรติในการทรงนำชนบทให้วัฒนา

เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก ๑๐ บาท 
เฉลิมพระเกียรติในการทรงนำชนบทให้วัฒนา
๒๑ กรกฎาคม ๒๔๓๐

จำนวนผลิค 300,000 เหรียญ 
ถือเป็นเหรียญนิยม






วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เหรียญ 1 บาท 2505 แปลก ก้อยเอียงเล็กน้อย

เหรียญ 1 บาท 2505 แปลก ก้อยเอียงเล็กน้อย 








วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เหรียญ 5 บาท ปี 2551 มี 2 พิมพ์


เหรียญ 5 บาท ปี 2551 มี 2 แบบ หนา บาง โดย ใหม่ขวามือแบบบางผลิต 6,225,000 เหรียญครับ แบบเก่า ผลิต 220,463,200 เหรียญ

เหรียญ 5 บาทนิวซีรีส์...แม่ค้าไม่คุ้น

นับตั้งแต่กรมธนารักษ์ทยอยนำเหรียญชุดใหม่ (เหรียญนิวซีรีส์) ออกมาใช้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยปรับปรุงใหม่ทั้งเหรียญ 1บาท 2 บาท 5 บาท และ 10 บาท ปรากฏว่าประชาชนยังสับสน หลายคนไม่กล้าใช้คิดว่าเป็นเหรียญปลอม โดยเฉพาะเหรียญ 5 บาท ที่มีขนาดบางและเบาลงกว่าเดิมมาก นอกจากนี้ ยังไม่สามารถนำไปหยอดในตู้ซื้อสินค้าบางชนิดได้ เช่น ตู้น้ำอัดลม ตู้ซื้อตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอส ฯลฯ

 "วรรณา ยินดียั่งยืน" ผอ.ส่วนวางแผนพัฒนาและเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักกษาปณ์ กรมธนารักษ์ เล่าว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นมา กรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญนิวซีรีส์ หรือเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนรุ่นใหม่ออกมาใช้ ขณะนี้ในตลาดมีครบทุกเหรียญแล้ว แต่ปริมาณไม่เท่ากัน แบ่งเป็นเหรียญ 25 สตางค์ 25 ล้านเหรียญ 50 สตางค์ 29 ล้านเหรียญ 1 บาท 19 ล้านเหรียญ 2 บาท 241 ล้านเหรียญ 5 บาท 229 ล้านเหรียญ และ 10 บาท 10 ล้านเหรียญ สำหรับสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนรูปโฉมผลิตเหรียญ 2 บาทใหม่ และผลิตออกสู่ตลาดมากที่สุดก็เพราะที่ผ่านมาประชาชนสับสนระหว่างเหรียญ 2 บาทกับ 1 บาท เนื่องจากมีสีเงินและขนาดใกล้เคียงกันมาก กรมธนารักษ์จึงพยายามเรียกเก็บเหรียญ 2 บาทเดิม แล้วผลิตเหรียญ 2 บาทใหม่สีเหลืองทองออกมาใช้แทน
 "ตอนนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเหรียญ 2 บาทแล้ว เพราะเปลี่ยนสีไปเลย จากสีเงินที่มีส่วนประกอบโลหะนิกเกิลชุบเคลือบไส้เหล็กมาเป็นอะลูมิเนียมบรอนซ์ ทำให้มีสีเหลืองทอง เส้นผ่าศูนย์กลางเท่าเดิม แต่น้ำหนักลดลงจาก 4.4 กรัม เป็น 4.0 กรัม พอเปลี่ยนสีให้แตกต่างจากเหรียญ 1 บาทแล้ว ชาวบ้านก็ชอบ" วรรณา กล่าว
 อย่างไรก็ดี สำหรับเหรียญ 5 บาทใหม่กลับพบว่า กรมธนารักษ์ได้รับการร้องเรียนเข้ามามาก เนื่องจากน้ำหนัดลดลงทำให้เหรียญบาง ไม่หนาเหมือนเดิม จนมีข่าวลือในแถบภาคใต้ว่าเป็นเหรียญปลอม เวลาซื้อของพ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมรับ ดังนั้น กรมธนารักษ์จึงพยายามชี้แจงว่าเป็นการลดต้นทุนการผลิต ใช้วัสดุเหมือนเดิมคือคิวโปรสอดไส้ทองแดง เพียงแต่เหรียญ 5 บาทซีรีส์ใหม่จะมีน้ำหนักแค่ 6.0 กรัม ต่างจากรุ่นเก่าที่หนัก 7.5 กรัม ส่วนเรื่องการหยอดตู้อัตโนมัติไม่ได้นั้น กรมธนารักษ์ได้ประสานผู้ผลิตตู้ให้เร่งปรับเครื่องรองรับเหรียญรุ่นใหม่แล้ว
 ส่วนเหรียญ 1 บาทใหม่จะแตกต่างจากเดิมคือ น้ำหนักน้อยกว่า 0.4 กรัม และเปลี่ยนจากเนื้อโลหะคิวโปรนิกเกิลเป็นนิกเกิลชุบเคลือบไส้เหล็ก ผอ.ส่วนวางแผนพัฒนาฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า เพื่อลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากเหรียญ 1 บาทชุดเดิม มีต้นทุนการผลิตเกือบ 2 บาทต่อเหรียญ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักสากล ที่ระบุให้มูลค่าวัสดุที่ใช้ผลิตเหรียญกษาปณ์แต่ละชนิด ไม่ควรเกินร้อยละ 40 ของราคาเหรียญ เช่น เหรียญ 1 บาท ต้องใช้มูลค่าโลหะที่ผลิตไม่เกิน 40 สตางค์ เป็นการป้องกันคนเอาเหรียญไปหลอมละลายทำเป็นสินค้าอย่างอื่น
 ทั้งนี้ เหรียญนิวซีรีส์ทุกรุ่นได้เปลี่ยนแปลงพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงด้วย โดยเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบพระชนมายุปัจจุบันมากขึ้น เพราะเหรียญชุดเดิมใช้มากว่า 20 ปีแล้ว ส่วนลวดลายด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญยังคงเหมือนเดิม เพียงแค่ปรับปรุงให้สวยงามคมชัดมากขึ้น 
 "ขอให้ประชาชนอย่าเก็บสะสมเหรียญไว้ในบ้าน หากอยากออมเงินให้มาแลกเป็นธนบัตรไปเก็บ เพราะกรมธนารักษ์ต้องผลิตเหรียญใหม่ออกมาใช้แทนเหรียญเก่าที่หายไปจากตลาด การผลิตเหรียญโลหะเป็นการใช้ต้นทุนสิ่งแวดล้อมสูง ทั้งกระบวนการขุดเจาะหาแหล่งแร่โลหะ การถลุงโลหะ การหลอมโลหะ ฯลฯ ขั้นตอนเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น และประเทศไทยต้องซื้อเหรียญจากผู้ผลิตในต่างประเทศ ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ถ้าทุกคนนำเหรียญเก่ามาหมุนเวียนใช้อย่างต่อเนื่อง ก็ไม่ต้องผลิตเหรียญใหม่ ไม่ต้องขุดวัตถุดิบจากธรรมชาติมาใช้มากเกินความจำเป็น ถือว่าช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมทางอ้อม" ผอ.ส่วนวางแผนพัฒนาฯ กล่าว
 ด้าน "จิราวุธ ตันตระกูล" ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมเหรียญกษาปณ์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงปัญหาของการใช้เหรียญซีรีส์ใหม่คือเรื่องน้ำหนัก เพราะตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติจะรับเหรียญโดยคำนวณจากเส้นผ่าศูนย์กลางและน้ำหนัก หากผิดไปจากที่ตั้งโปรแกรมไว้ก็จะหล่นออกมา ส่วนตัวเห็นด้วยที่เปลี่ยนสีเหรียญ 2 บาทเป็นแบบใหม่ ป้องกันความสับสนกับเหรียญบาท ส่วนเหรียญ 5 บาทตอนนี้ประชาชนยังไม่เคยชิน แต่สักพักปัญหาต่างๆ จะหมดไป และเหรียญ 5 บาทเดิมก็จะเริ่มหมดไปจากตลาดด้วย
 "เหรียญ 5 บาทผลิตเกือบทุกปี ประมาณปีละ 30-100 ล้านเหรียญ คนที่สะสมจะเลือกรุ่นที่ผลิตน้อย เช่นเหรียญ 5 บาทปี 2546 ผลิตแค่ 182,000 เหรียญ สังเกตปีที่ผลิตได้จากตัวเลข พ.ศ.ที่ปั๊มอยู่ด้านหลังของเหรียญทุกอัน แม้หน้าเหรียญจะปั๊มราคาแค่ 5 บาท แต่ราคาที่นักสะสมซื้อคือเหรียญละ 50 บาท ซึ่งหาไม่ค่อยเจอแล้วเพราะผลิตน้อยมาก" จิราวุธ ระบุ
 ทั้งนี้ เว็บไซต์นักสะสมเหรียญหลายแห่ง ได้นำเหรียญกษาปณ์รุ่นต่างๆ มาประกาศขายกันอย่างคึกคัก โดยเหรียญ 5 บาทในปี 2546 มีการประกาศขายราคาเหรียญละ 150 บาท ส่วนเหรียญ 2 บาทบางรุ่นราคาสูงถึง 50 บาท
 เจ้าหน้าที่ศูนย์ฮอตไลน์ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ชี้แจงถึงกรณีที่ไม่สามารถใช้เหรียญ 5 บาทกับเครื่องซื้อตั๋วอัตโนมัติว่า ขณะนี้ศูนย์วิศวกรรมของบริษัทยืนยันว่า กำลังมีการปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด เพื่อทำให้เหรียญ 5 บาทซีรีส์ใหม่สามารถใช้ได้กับทุกเครื่องแล้ว

เครดิตข้อมูลดีๆจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20090817/24533/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%8D5%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B9%8C...%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99.html

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เหรียญ 5 บาท ปี 2525 รหัส 25-29 ครุฑพ่าห์ตรง

เหรียญกษาปณ์ชนิดโลหะสีขาว(ทองแดงผสมนิเกิล)เคลือบไส้ทองแดง พ.ศ.2525 ราคา 5 บาท







กลางเหรียญมีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผินพระพักตร์ทางเบื้องซ้าย ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงฉลองพระองค์ครุย ชิดวงขอบเหรียญด้านซ้าย มีข้อความว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" ด้านขวามีข้อความว่า "รัชกาลที่ ๙"
กลางเหรียญมีรูปครุฑพ่าห์ ชิดวงขอบ เหรียญเบื้องบนมีข้อความว่า "พ.ศ.๒๕๒๕" เบื้องล่างมีข้อความว่า "ประเทศไทย" ด้านซ้ายมีเลข "๕" ด้านขวามีเลข "5" ใต้รูปครุฑมีคำว่า "บาท" ใต้คำว่าบาท มีเครื่องหมายโรงกษาปณ์และมีเลขย่อ ของปีพุทธศักราชที่ผลิตเหรียญออกใช้

ข้อมูลเพิ่มเติม
น้ำหนัก : 12 กรัมราคา ณ วันประกาศใช้ : 5 บาท
วันที่ประกาศใช้ : 9 ธันวาคม 2525เส้นผ่าศูนย์กลาง : 30  มิลลิเมตร

ชนิด : โลหะสีขาวเคลือบไส้ทองแดง
ราคาหน้าเหรียญ 5 บาทประเภท -
ลักษณะ เหรียญกลม ขอบเฟือง

ส่วนผสม :จำนวนการผลิต :
นิกเกิล25
ไส้ทองแดง99.5
2525500000 เหรียญ
2527700000 เหรียญ
25297201000 เหรียญ

ผู้ออกแบบ (หน้า) : นางสาวสุภาพ อุ่นอารีย์ผู้ออกแบบ (หลัง) : นางสาวสุภาพ อุ่นอารีย์
ผู้ปั้นแบบ (หน้า) : นางพุทธชาติ อรุณเวชผู้ปั้นแบบ (หลัง) : นายสมชัย นวลสกุล


ขอขอบคุณข้อมูลจากกรมธนารักษ์
http://business.treasury.go.th/coininfo/detail.php?id=7&gid=4


                                 สนับสนุนโดย Thai Phone Shop นึกถึงโทรศัพท์นึกถึงเรา                                  http://www.thaiphoneshop.com/

 Thai Phone Shop



เทียบกับเหรียญ 10 รุ่นปัจจุบัน


เหรียญ 5 บาทชุดนี้น่าสนใจตรงที่ แต่ละปีผลิตไม่มาก โดยเฉพาะปี 26 ผลิตแค่ 100,000 เหรียญ แรกใช้งานเมื่อ 32 ปีที่แล้ว ที่เก็บไปก็มาก ใช้งานไปส่วนใหญ่ เหลือที่ไม่เคยใช้งาน UNC อีกไม่มากนัก จะว่าไปน้อยกว่า 5/46 ในปัจจุบันแน่นอน สำหรับการเก็บสะสมหรือรอขายต่อแนะนำชุดนี้หามาเก็บกันไว้เลยครับ ราคาปัจจุบัน 800-1200 บาท ( 08/2558 )

2525 ผลิต 500,000 เหรียญ
2526 ผลิต 100,000 เหรียญ
2527 ผลิต 700,000 เหรียญ
2528 ผลิต 17,911,000 เหรียญ
2529 ผลิต 7,201,000 เหรียญ

บริเวณด้านล่างใต้ " บาท " นกวายุพักตร์รูปเล็ก มีเลขย่อ ของปีพุทธศักราชที่ผลิตเหรียญออกใช้